เทียบจอภาพ VR ด้วย PPD ดีกว่า PPI
เวลาที่มีการเปิดเผยสเปคแว่น VR/AR มักจะมีการแจ้งข้อมูลเรื่องจอภาพในส่วนแสดงผลเป็นค่าความละเอียดพิกเซลต่อนิ้ว PPI (Pixels-Per-Inch) 773 PPI , 943 PPI หรือ บางทีก็บอกเป็น ความละเอียดหน้าจอภาพ 1832 × 1920 px หรือ 2160 x 2160 px ซึ่งการดูเพียงเรื่องความละเอียดภาพ หรือ ดู PPI จะยังไม่ชัดเจน อาจจะทำให้เข้าใจผิด ในเวลาจะเปรียบเทียบสเปคกัน เพราะตัวแปรที่สำคัญของส่วนจอภาพของ VR/AR มีส่วนที่สำคัญอีกตัวคือ ค่า FOV (Field Of View) ขอบเขตภาพ หรือ ขอบเขตการมองเห็น รวมถึงเทคนิคทางด้านออฟติกอีกที่จะส่งผลให้มองเห็นภาพชัดเจนมากขึ้น
ดังนั้นหากจะเทียบรายละเอียดจอภาพ ที่เห็นภาพได้ชัดเจนคือเทียบด้วย PPD (Pixels-Per-Degree) ค่าความละเอียดพิกเซลต่อองศา แทนมากกว่า
ตัวอย่าง
หากเทียบระหว่าง PICO4 , Quest 2 , Quest Pro แล้วดูเพียงเรื่อง PPI อย่างเดียวจะเป็นดังนี้
PICO4 = 1200PPI
Quest2 = 773PPI
Quest Pro = 1059PPI (*คำนวณจาก 37% ของ Quest 2)
เมื่อดูแบบนี้เหมือนว่า PICO4 น่าจะชัดมาก ๆ มากกว่า Quest 2 และ Quest Pro
แต่เมื่อใช้งานจริง ๆ ทำไมดูเหมือนใกล้เคียงกัน แล้ว Quest Pro ดูจะชัดกว่าด้วย
ถึงต้องดูที่ค่า PPD แทน
วิธีคำนวณ PPD พิเซลต่อองศา แบบง่าย ๆ ก่อน
เอาค่า พิกเซลแนวนอน (Hor. Pixel) มาตั้งแล้วหารด้วย ขอบเขตภาพแนวนอน (FOV)
PPD = HOR. Pixel / FOV
หากคำนวณแบบเบื้องต้นจะได้ค่า PPD พิกเซลต่อองศา ออกมาแบบนี้ เช่น
Pico4 = 20.6 (2160×2160 / FOV 105 , PPI 1200)
Quest2 = 20 (1832×1920 / FOV 97 , PPI 773 )
Quest Pro = 18.8 (1800×1920 / FOV 106 , PPI 1059)
XREAL Air = 41 (1920 x 1080/ FOV 46)
XREAL Light = 38 (1920 x 1080/ FOV 52)
Rokid Air = 44.7 (1920 x 1080/ FOV 43)
Rokid Max = 38 (1920 x 1080/ FOV 50)
การเพิ่ม ค่า PPD พิกเซลต่อองศา จะเพิ่มจากอะไรได้บ้าง
1.ฟิกขนาดจอเท่าเดิม (FOV) แต่เพิ่มความละเอียดจอภาพ (PPI)
การเพิ่มความละเอียดไม่ใช่เรื่องง่าย ตามมาด้วยต้นทุนที่สูงขึ้น
2.ฟิกขนาดพิกเซลต่อนิ้ว (PPI) เท่าเดิม เพิ่มขนาดจอภาพ (FOV)
การเพิ่มขนาดจอภาพ ทำให้แฮดเซตมีขนาดใหญ่ขึ้น
จึงเกิดอย่างสุดท้าย ที่เป็นกลยุทธ์ของแต่ละผู้ผลิต
3.ระบบออฟติคอล สามารถจัดการพิกเซลของจอภาพเพิ่มเติม บริเวณกลางเลนส์
วิธีนี้สามารถส่งผลให้ ความละเอียดพิกเซลต่อองศา PPD กลางภาพมีความชัดมากขึ้นได้ อาศัยประโยชน์จากลักษณะการเห็นของดวงตา ที่จะเน้นโฟกัสตรงกลางมากกว่าบริเวณโดยรอบ นั้นเอง
จึงไม่แปลกที่ จากการคำนวณ PPD ข้างต้นดูเหมือน Quest Pro จะมีค่า PPD น้อยที่สุดคือ 18.8 แต่ ด้วยการใช้ระบบออฟติคอลช่วยสามารถทำให้ส่วนกลางเลนส์ สามารถทำได้ละเอียดถึง 22 PPD นั่นเอง
ดังนั้นในการที่จะเทียบความละเอียดของจอภาพ VR / AR / MR / XR จะเทียบที่ PPD มากว่า PPI ดังที่ Kim Gong-min กรรมการผู้จัดการของ Samsung Display กล่าวว่าสำหรับอุปกรณ์ AR/VR ตัวชี้วัด PPD (พิกเซลต่อองศา) มีความสำคัญมากกว่า PPI (พิกเซลต่อนิ้ว) อ้างอิง บทความ samsung-เปิดตัว-ledos
https://simulavr.com/blog/ppd-optics/
https://www.meta.com/blog/quest/vr-display-optics-pancake-lenses-ppd/