ทรัมป์ยอมถอย! ชุดเฮดเซต VR รอดภาษีนำเข้าโหดยกเว้นภาษีตอบแทน 125% สำหรับสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ – Quest และ Vision Pro อาจรอดตัว

อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์หลายชนิด รวมถึงชุดเฮดเซต VR ได้รับการ ยกเว้นภาษีนำเข้าโหด จากรัฐบาลทรัมป์แล้ว
แต่อุปกรณ์แบบสแตนด์อโลน เช่น Meta Quest และ Apple Vision Pro ยังต้องลุ้นว่าจะเข้าข่ายหรือไม่

ทรัมป์ยกเว้นสินค้าอิเล็กทรอนิกส์จำนวนมากจากภาษี “ตอบแทน” ของเขา

เมื่อคืนที่ผ่านมา ทำเนียบขาวภายใต้การนำของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้มีคำสั่งยกเว้นสินค้าหลายรายการจากภาษีนำเข้าแบบ “ตอบแทน” ซึ่งรวมถึงอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อย่างสมาร์ตโฟน แท็บเล็ต แล็ปท็อป และชุดเฮดเซต VR

โดยคำสั่งใหม่นี้ส่งผลโดยตรงต่อรหัสสินค้า HTS 8528.52 ซึ่งครอบคลุมอุปกรณ์อย่าง “จอภาพและเครื่องฉายภาพที่ไม่มีเครื่องรับสัญญาณโทรทัศน์ สามารถเชื่อมต่อโดยตรงและออกแบบมาเพื่อใช้กับเครื่องประมวลผลข้อมูลอัตโนมัติ” ซึ่งมีการยืนยันจากศุลกากรสหรัฐฯ ว่าครอบคลุมถึงชุดเฮดเซต VR สำหรับพีซีหรือคอนโซล

แม้ว่าชุดเฮดเซตแบบแยกเดี่ยว (Standalone) เช่น Meta Quest หรือ Apple Vision Pro อาจเข้าข่ายรหัสสินค้า 9504.50 ซึ่งจัดอยู่ในหมวด “เครื่องเล่นเกมวิดีโอ” และไม่ได้รับการยกเว้นโดยตรง แต่ก็ยังไม่ชัดเจนว่าหน่วยงานภาษีจะตีความอย่างไร

โดยภาษีตอบแทนของทรัมป์นั้น ก่อนหน้านี้มีการตั้งเพดานไว้ที่ 125% สำหรับสินค้าจากจีน และ 10% สำหรับสินค้าจากเวียดนาม ซึ่งเป็นสองแหล่งผลิตหลักของชุดเฮดเซต VR ทั่วโลก อย่าง Meta Quest ก็ผลิตที่เวียดนาม

ข่าวดีคือคำสั่งยกเว้นดังกล่าวมีผลย้อนหลัง ซึ่งหมายความว่าชุดเฮดเซต VR ที่นำเข้าตั้งแต่ก่อนวันที่มีผลบังคับใช้จะไม่ต้องจ่ายภาษีนำเข้าเพิ่ม

เดิมทีในช่วงต้นเดือน ภาษีนำเข้าจากจีนถูกวางไว้ที่ 34% บวกกับภาษีจากช่วงต้นปีที่ 20% รวมเป็น 54% แต่เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ทรัมป์ได้ลดระดับลงเหลือเพียง 10% สำหรับทุกประเทศ ยกเว้นจีนที่ยังคงโดนภาษีรวม 145% หากไม่มีข้อยกเว้นเพิ่มเติม

สำหรับบริษัทต่างๆ อย่าง Meta ที่มีฐานผลิตในเวียดนาม ข่าวนี้นับว่าเป็นข่าวดีที่ช่วยหลีกเลี่ยงการขึ้นราคาได้ในระยะสั้น แต่บริษัทอื่นที่ยังพึ่งพาการผลิตในจีนอาจต้องทบทวนยุทธศาสตร์ใหม่อย่างเร่งด่วน

ที่มา
uploadvr