INMO Go แว่น AR หลักพัน ราคาเปิดตัว 1,700 หยวน / 8,900 บาท

เมื่อวานนี้ 6 ก.ย. 66 มีการเปิดตัวแว่น AR อีกตัวหนึ่งเป็นแว่น AR หลักพันหยวน แปลงเป็นไทยไม่ถึงหมื่น  INMO Yingmu Technology ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ IMNO Go ซึ่งลดราคาผลิตภัณฑ์ของท่อนำคลื่นแสงแบบเบี่ยงเบน + Micro-LED ลงเหลือ “ระดับพันหยวน”

แว่นตา AR มูลค่าพันหยวนอาจเปิดสถานการณ์ตลาดใหม่สำหรับอุตสาหกรรม และจะมีผลกระทบต่ออุตสาหกรรมมากน้อยเพียงใด สามารถเปิดตลาดผู้บริโภคได้จริงหรือไม่

เพราะเป็นตัวแว่นตา AR ตาเดียว INMO Go ที่มีน้ำหนักเบา เมื่อเทียบกับผลิตภัณฑ์ก่อนหน้านี้ แอปพลิเคชัน INMO Go ใช้งานได้จริงมากกว่า อาจกล่าวได้ว่าเปิดแนวทางการแข่งขันที่แตกต่างกับผลิตภัณฑ์ AR อื่น ๆ ในตลาดปัจจุบัน

เมื่อพูดถึงแนวทางของแว่นตา AR ตอนนี้มีหลายทิศทาง ทิศทางหลักคือ AR+แว่นตา ซึ่งเน้นผลิตภัณฑ์ระดับไฮเอนด์ที่มีฟังก์ชันหลักของ AR เช่น HoloLens และ Magic Leap และ ถัดมา แว่นตา+AR ซึ่งเน้นรูปทรงของแว่นตาที่บางและเบา โดยมีฟังก์ชัน AR ซ้อนทับอยู่ โดยแบ่งออกเป็น 2 ประเภทอีก ได้แก่ แว่นตา AR ที่ใช้หลักการ
– ใช้ระบบออพติคอลโซลูชันด้านแสงแบบ Birdbath (กระจกเว้าสะท้อนแสง) ที่เน้นความบันเทิงและสำนักงาน เช่น Xreal , Rokid , RayNeo
– ใช้ท่อนำคลื่นแสงแบบเลี้ยวเบน + Micro-LED โดยมีข้อมูลแจ้งเป็นแกนหลัก เช่น Yingmu, OPPO, Xiaomi, Nubia เป็นต้น

ไม่ว่าจะเป็น AR+แว่นตา หรือ แว่นตา+AR แต่ในมุมมองของ Yingmu แว่นตา AR ประการแรกจะต้องเป็นแว่นตาที่เบาและบางพอที่จะสวมใส่โดยผู้ใช้ในแต่ละวัน ประการที่สอง ราคาจะต้องอยู่ที่ประมาณ 1,000 หยวน ซึ่งอยู่ในความสามารถในการจ่ายของผู้บริโภคส่วนใหญ่ ที่สำคัญกว่านั้น สถานการณ์การใช้งาน ใช้งานได้จริงมากขึ้น

1. แว่นตา + AR โดยสวมใส่ประจำได้ทุกวัน

หากพูดถึงการออกแบบของ INMO Air 2 คือ “เท่และอินเทรนด์” INMO Go จะเป็นคำว่า “ใช้ทุกวัน” มากกว่า และรูปลักษณ์ก็ไม่แตกต่างจากแว่นตาทั่วไป มีให้เลือกทั้งสีดำและขาว กรอบแว่นทรงเรียว และขาแว่นแบบพับได้ สามารถใช้เป็นแว่นตาธรรมดาสำหรับสวมใส่ในชีวิตประจำวันได้

ด้านในของแว่นตามีช่องเสียบอุปกรณ์เสริมเลนส์สายตาสั้นและคุณสามารถเลือกเลนส์ที่มีระดับที่เหมาะสมในการติดโดยตรงและคุณสามารถกลายเป็นแว่นตาสายตาสั้นได้ ปัจจุบันมีโซลูชั่นแว่นตาสายตาสั้นหลายรูปแบบเช่น OPPO Glass2 ที่ติดมาจากโรงงานโดยตรง ข้อดีคือ ถอดประกอบได้สะดวกกว่า และแว่นก็สามารถใช้ได้หลายคน แต่ ความสมบูรณ์ของกระจกไม่แข็งแรงเท่าแบบฝัง

นอกจากนี้ INMO Go ยังสามารถติดตั้งเลนส์แว่นกันแดดที่เข้ากันได้อีกด้วย เมื่อเดินทางกลางแจ้ง แว่นตา AR สามารถเปลี่ยนให้เป็นแว่นกันแดดแฟชั่นได้

อาจกล่าวได้ว่าน้ำหนักเป็นหนึ่งในไฮไลท์หลักของรุ่นใหม่นี้ INMO Go มีน้ำหนักเพียงประมาณ 50 กรัม ทำให้เป็นหนึ่งในแว่นตา AR น้ำหนักเบาไม่กี่ตัวในตลาดปัจจุบัน

จากการทดสอบของ Gyro Jun ไม่สังเกตเห็นความรู้สึกไม่สบายอย่างเห็นได้ชัดหลังจากสวมใส่เป็นเวลาหลายชั่วโมงในแต่ละวัน อย่างไรก็ตาม เมื่อระยะเวลาเพิ่มขึ้น จะรู้สึกถึงน้ำหนักที่กดอยู่บนดั้งจมูก และอาจทำให้รู้สึกไม่ที่บริเวณหู อย่างไรก็ตาม น้ำหนักของแว่นสายตาสั้นทั่วไปอยู่ระหว่าง 20-30 กรัม และแว่นตา AR ยังคงมีช่องว่างที่ต้องปรับปรุง

เมื่อพิจารณาจากการออกแบบขาแว่นของ INMO Go เพื่อให้สามารถปรับให้เข้ากับรูปร่างศีรษะของคนส่วนใหญ่ได้ ขาแว่นของ INMO Go สามารถปรับด้านนอกได้ 3 องศา ซึ่งไม่เพียงเพิ่มความสบายในการสวมใส่เท่านั้น แต่ยังปรับปรุงความสามารถในการปรับตัวของผู้ใช้อีกด้วย

ทั้งลำโพงและไมโครโฟนตั้งอยู่ที่ขาแว่น ซึ่งสามารถรวบรวมเสียงเพื่อตอบสนองต่อคำสั่งเสียงได้อย่างมีประสิทธิภาพ และมอบประสบการณ์เสียงที่ดียิ่งขึ้น

โหมดการโต้ตอบของแว่นตารองรับที่ปุ่มเสียง การสัมผัสขมับ และปุ่มทางกายภาพ เนื่องจากไม่มีกล้อง จึงไม่สามารถรองรับการโต้ตอบด้วยท่าทางและการวางตำแหน่งเชิงพื้นที่ แบบ 6DoF ได้

2. การแสดงผลข้อมูลส่งผ่านได้ถึง 85% และความสว่างเกิน 2000nits ทำให้สามารถทำงานได้ตลอดเวลา

สำหรับแว่นตา AR นอกเหนือจากความเบาและบางแล้ว พารามิเตอร์ทางแสงยังมีความสำคัญอย่างยิ่งเพื่อให้สวมใส่ได้ในแต่ละวันอย่างแท้จริง นอกจากนี้ นี่ยังเป็นปัจจัยสำคัญ ด้วยว่าทำไมการผสมผสานระหว่างท่อนำคลื่นแสงแบบเลี้ยวเบนและ Micro-LED จึงมีแนวโน้มที่ดี

เมื่อเปรียบเทียบกับโซลูชันด้านการมองเห็น เช่น Birdbath และพื้นผิวอิสระ ท่อนำคลื่นแสงแบบเบี่ยงเบนสามารถส่งผ่านได้สูงกว่าถึง 85%-90% จากในคลิประบุว่าการส่งผ่านของ INMO Go อยู่ที่ 85% ซึ่งเหมือนกับกระจกธรรมดา หรือเรซิน แว่นตาก็ไม่ต่างกัน

ในด้านหนึ่งการออกแบบตาข้างเดียวช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายของต้นทุน และในขณะเดียวกันก็สามารถหลีกเลี่ยงการปิดกั้นแนวการมองเห็นมากเกินไปในการใช้งานประจำวัน เพื่อปรับให้เข้ากับสถานการณ์การใช้งานได้มากขึ้น

ความสว่างยังเป็นตัวแปรสำคัญในการตัดสินว่าแว่นตาสามารถใช้ในฉากแสงต่างๆ ได้หรือไม่ ประสิทธิภาพแสงของท่อนำคลื่นแบบเลี้ยวเบนต่ำมากเพียงประมาณ 1% เท่านั้น ดังนั้น เพื่อให้ได้ความสว่างที่สะดุดตามากขึ้น มีความสว่างเพียงพอ ปัจจุบัน ความสว่างของหน้าจอ Micro-LED สีเขียวจอเดียวสูงถึง 5 ล้านนิต ภายใต้สมมติฐานที่มีประสิทธิภาพแสงน้อยมาก ยังให้ความสว่างที่สะดุดตามากกว่า 2,000 นิต แม้แต่ในฉากที่มีแสงแดดจ้ากลางแจ้ง สามารถมองเห็นหน้าจอได้ชัดเจน

3. การกำหนดราคา “พันหยวน” เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมแว่นตาแบบดั้งเดิม

ราคาของ INMO Go อาจกล่าวได้ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรงกับตลาดแว่นตาแบบดั้งเดิม ตัวอย่างเช่น ราคาของแว่นสายตาสั้นหนึ่งอันอยู่ระหว่าง 500-3,000 หยวน (2,500-15,000 บ.) และราคาของแว่นแฟชั่นก็สูงขึ้นเรื่อย ๆ ปัจจุบัน ราคาของแว่นตา AR ในตลาดส่วนใหญ่อยู่ที่ประมาณ 2,000-4,000 หยวน (10,000-20,000 บ.) “ในตลาดภายในประเทศเป็นหลัก” ในปีก่อนหน้านี้ ราคาของแว่นตา AR อยู่ที่ประมาณ 6,000 หยวน (30,000 บ)

ราคาของแว่นตา AR ในประเทศเกือบจะเท่ากับราคาของสมาร์ทโฟนระดับกลาง การเปิดตัว INMO Go ได้ผลักดันราคาของแว่นตา AR โดยตรง แม้แต่ในแอปพลิเคชัน ก็แทบจะครอบคลุมความต้องการของสายตาสั้น แฟชั่น และฟังก์ชันอื่น ๆ อีกทั้งยังมีประสิทธิภาพเทียบเท่ากับ แว่น+AR ที่สามารถใช้เป็นประจำได้ ซึ่งอาจส่งเสริมให้แว่นตา AR ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วในฝั่งผู้บริโภค

ในการนำแว่น AR INMO Go ไปใช้โดยมุ่งเน้นไปที่สามประเด็นหลัก ได้แก่
1. ผู้ช่วยกลางแจ้ง
2. ผู้ช่วยทางธุรกิจ
3. การเรียนรู้ภาษา
และการสำรวจฟังก์ชันแอปพลิเคชันเชิงลึกเกี่ยวกับสถานการณ์แบ่งกลุ่มหลักสามสถานการณ์

1. แจ้งเตือน โนติฟาย ต่าง ๆ เช่น การโทร เพลง ได้ตลอดเวลา

เช่นเดียวกับแว่นตา AR ประเภทเดียวกันส่วนใหญ่ในตลาด INMO Go ไม่เพียงแต่มุ่งเน้นไปที่การแปล การส่งสัญญาณทางไกล และการนำทาง แต่ยังโฮสต์ฟังก์ชันทั่วไป เช่น การโทรศัพท์ การฟังเพลง และการแจ้งเตือนข้อความ

สำหรับพนักงานออฟฟิศ พวกเขาสามารถตรวจสอบข้อความได้ตลอดเวลาระหว่างการประชุมโดยไม่ต้องดูโทรศัพท์หรือนาฬิกาบ่อยๆ สำหรับผู้ที่มีตารางงานที่ซับซ้อน การแจ้งเตือนกำหนดการก็เป็นฟังก์ชันที่ใช้งานได้จริงเช่นกัน และจะไม่พลาดการจัดเตรียมสิ่งสำคัญบางอย่าง

ในเวลาเดียวกัน เมื่อเปรียบเทียบกับชุดหูฟังบลูทูธและแว่นตาเสียง INMO Go สามารถดูเนื้อเพลงได้ ในขณะที่ฟังเพลง โดยไม่ต้องคลิกที่โทรศัพท์เพื่อตรวจสอบ เป็นที่น่าสังเกตว่า หลังจากกลับมาที่หน้าแรกสักสองสามนาทีระหว่างการใช้งาน INMO Go จะล็อคหน้าจอโดยอัตโนมัติและดึงดูดสายตาของคุณกลับสู่โลกแห่งความเป็นจริง

2. การขอคำแนะนำจาก GPT AI ได้คำตอบทันที

จุดประชาสัมพันธ์อีกประการหนึ่งของ INMO Go คือการเปิดตัว GPT ซึ่งสามารถตอบคำถามและคำตอบได้ทันที เช่น การค้นหา Baidu Baike การแชทด้วยเสียง ข้อมูลคำสั่งเสียง และการโต้ตอบอัจฉริยะอื่นๆ

นอกจากนี้ยังใช้งานได้สะดวกมาก ตราบใดที่คุณแตะบริเวณสัมผัสบนขมับ แว่นตาก็สามารถเปิดการรับเสียงและส่งเนื้อหาเสียงไปยังโทรศัพท์มือถือได้ในเวลาเดียวกัน

น่าแปลกที่ในระหว่างกระบวนการรับเสียง ความเร็วในการตอบสนองของคำตอบอัจฉริยะของ AI ไม่ได้แสดงความล่าช้าอย่างชัดเจนหรือผลกระทบด้านลบอื่นๆ ของการพูดติดอ่าง ประสบการณ์โดยรวมค่อนข้างราบรื่น สามารถตอบได้ทันที

อย่างไรก็ตาม สำหรับคำถามทั่วไปบางคำถาม คำตอบของ AI นั้นค่อนข้างกว้าง เช่น การถามเกี่ยวกับที่พัก อาหาร ฯลฯ ซึ่งไม่แม่นยำเท่ากับคำถามมาตรฐานบางคำถาม เช่น Baidu Encyclopedia

3. ช่วยนำทาง เวลาขับรถ ปั่นจักรยาน

การนำทางเป็นเรื่องที่ใช้มากในชีวิต ไม่ว่าจะขับรถ ปั่นจักรยาน หรือเดิน คนส่วนใหญ่ที่ออกไปข้างนอกก็มีความต้องการ นอกจากหน้าจอในรถแล้ว การเดินหรือปั่นจักรยานขณะมองโทรศัพท์ขณะนำทางยังไม่ใช่ทางออกที่ดีที่สุดจากด้านประสบการณ์ผู้ใช้

ข้อมูลการนำทางของระบบนำทางของ INMO Go สามารถนำเสนอต่อหน้าต่อตาผู้ใช้โดยตรงขณะขับขี่ โดยไม่จำเป็นต้องก้มดูโทรศัพท์บ่อยๆ เนื่องจากแผนที่จะแสดงแบบเรียลไทม์ สำหรับคนที่ไม่ค่อยรู้เส้นทางบนท้องถนน จะไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับทิศทางเมื่อผ่านทางแยกที่ซับซ้อน

นอกจากนี้ สำหรับผู้ใช้ที่ชอบฟังเพลงขณะขับขี่ INMO Go ยังสามารถตระหนักถึงการอยู่ร่วมกันของอินเทอร์เฟซเพลงและการนำทาง และในขณะเดียวกัน คุณก็สามารถมองเห็นสภาพแวดล้อมจริงผ่านเลนส์ได้

จากการทดสอบใช้จริง จากมุมมองการนำทาง INMO Go หน้าจอแสดงเนื้อหามากเกินไป และเมื่อขี่บนถนนที่ซับซ้อนมากขึ้น คุณจะรู้สึกได้ชัดเจนว่าการมองเห็นของคุณถูกปิดกั้น

อย่างไรก็ตาม Yingmu กล่าวว่าระบบภายในจะได้รับการอัปเดตและปรับปรุงอย่างต่อเนื่องตามความคิดเห็นของผู้ใช้

4. การแปล 8 ภาษาแบบเรียลไทม์ด้วยอัตราความแม่นยำเกือบ 80%

ปัจจุบัน INMO Go รองรับการแปล 8 ภาษา “ญี่ปุ่น เยอรมัน ฝรั่งเศส สเปน รัสเซีย อิตาลี” ทำให้ผู้ใช้สามารถสื่อสารกับผู้อื่นได้ เนื่องจากรูปร่างของแว่นตา AR นั้นเหมือนกับแว่นตาทั่วไปและการแปลจะแสดงแบบเรียลไทม์ ผู้ใช้จึงสามารถรักษาการสื่อสารตามปกติเมื่อดูคำบรรยายโดยไม่ต้องมองหาปุ่มในทันทีและรอการกระทำที่น่าอายเช่น การถอดความ ที่สำคัญยกเว้นผู้สวมใส่เอง คนอื่น ๆ แทบจะไม่ได้ยินเสียงซึ่งปกป้องความเป็นส่วนตัวได้ในระดับหนึ่ง อย่างไรก็ตาม หากอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีเสียงดังหรือเมื่อมีผู้คนจำนวนมากผลในการสื่อสารจะลดลงอย่างมาก อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาจากเอฟเฟกต์การแปลในปัจจุบัน อัตราความแม่นยำคาดว่าจะอยู่ที่เกือบ 80%

5. ผู้ช่วยให้กับการผู้พูดพรีเซนต์

ในโอกาสต่าง ๆ เช่น การกล่าวสุนทรพจน์ การถ่ายทอดสด การเป็นเจ้าภาพ ฯลฯ ผู้ใช้สามารถดูข้อความแจ้งแบบเรียลไทม์ผ่านเลนส์แว่นตา INMO Go ซึ่งทำให้เข้าใจถึงสุนทรพจน์ที่ไม่มีสคริปต์ได้อย่างสมบูรณ์

การแจ้งเตือนอาจเป็นคีย์เวิร์ดหรือทั้งย่อหน้าก็ได้ เพียงปรับขนาดตัวอักษรและความเร็วของการแจ้งเตือนบนโทรศัพท์มือถือ นอกจากนี้ยังเป็นฟังก์ชันที่มีประโยชน์มากสำหรับการกล่าวสุนทรพจน์ในแต่ละวันอีกด้วย

จากประสบการณ์พบว่าการอ่านข้อความมีความชัดเจนมากและสามารถปรับความเร็วในการเล่นและขนาดตัวอักษรได้แต่ไม่สามารถแสดงการขึ้นบรรทัดใหม่ได้หากเพียงต้องการเพียงแสดงคีย์เวิร์ดและมีคีย์เวิร์ดหลายคำก็ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะแยกออก

ตั้งแต่ปีที่แล้ว แว่นตา AR สำหรับผู้บริโภคแบรนด์ใหม่ยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ข้อมูล Qichacha แสดงให้เห็นว่าบริษัทใหม่เกือบ 200 แห่งที่เกี่ยวข้องกับแว่นตา AR จะถูกจัดตั้งขึ้นในปี 2565

ผู้ผลิตโทรศัพท์มือถือ Lenovo, OPPO และ Huawei ต่างก็เปิดตัวผลิตภัณฑ์แว่นตาอัจฉริยะของตนเอง บริษัทชั้นนำด้าน AR ในประเทศ เช่น Thunderbird Innovation, Rokid, XREAL และ Yingmu ได้ส่งใบรับรองผลิตภัณฑ์สำหรับผู้บริโภคของตนแล้ว

ในปีนี้ Yingmu ได้พยายามใช้ INMO Go เพื่อเชื่อมต่อสถานการณ์การใช้งานต่างๆ ในตลาดผู้บริโภคบนสายผลิตภัณฑ์ของบริษัทเอง แม้ว่าแว่นตา AR ของ INMO Go จะดูไม่เท่นัก แต่ก็สามารถใช้เป็นแว่นตาธรรมดาได้ และมีขนาดกะทัดรัดและสวมใส่ง่าย

ในแง่ของสถานการณ์การใช้งาน INMO Go ไม่ได้มุ่งเน้นไปที่การชมภาพยนตร์และเกม แต่จะมุ่งเน้นไปที่แอพพลิเคชั่นน้ำหนักเบาที่ตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ส่วนใหญ่ในชีวิตได้สมจริงยิ่งขึ้นและสามารถเข้าใจฟังก์ชั่นต่างๆ เช่น การนำทาง การโทร การแปล และ ผู้ช่วยเสียง

ที่มา
VR Gyro (vrtuoluo.cn)
myzaker
sina