Quest 3 อาจจะแยกเกมออกจาก Quest 2 ในอนาคต แต่ตอนนี้ใช้ร่วมกันไปก่อน ทำให้บางเกมขนาดใหญ่ขึ้น
Quest 3 อาจจะแยกเกมออกจาก Quest 2 ในอนาคต แต่ตอนนี้ใช้ร่วมกันไปก่อน ทำให้บางเกมขนาดใหญ่ขึ้น
Quest 3 อาจจะแยกเกมออกจาก Quest 2 ในอนาคต แต่ตอนนี้ใช้ร่วมกันไปก่อน ทำให้บางเกมขนาดใหญ่ขึ้น ซึ่งอาจจะไม่ส่งผลดีให้กับแว่นรุ่นก่อนเช่น Quest 2 , Quest 1 เพราะจะกินพื้นที่มาก แต่กราฟิคอาจจะไม่ดีขึ้นตามไปด้วย เมื่อถึงจุดหนึ่งเพื่อจะให้ได้เกมที่เหมาะกับ Quest 3 ที่มีประสิทธิภาพดีกว่ารุ่นก่อนมาก อาจจะต้องมีการแยกเกมให้แตกต่างกันไปในแต่ละรุ่นนั่นเอง
ซึ่งในเดือนมกราคม Meta ประกาศว่านักพัฒนาซอฟต์แวร์จะมีตัวเลือกในการเพิ่มไบนารีแยกระหว่างชุดเฮดเซต Quest ต่าง ๆ แต่ยังไม่ได้นำมาใช้อย่างสมบูรณ์ เพื่อตอบสนองต่อคำร้อง ความคิดเห็น Meta เขียนทางอีเมลถึง UploadVR ว่า “ความสามารถในการสร้าง APK แยกสำหรับ Quest 1 กับ Quest 2 มีอยู่แล้วในปัจจุบัน และนักพัฒนาจำนวนมากใช้งานอยู่ เราวางแผนที่จะขยายสิ่งนี้ไปยัง Quest Pro และ Quest 3 ในอนาคต.”
แต่ตามที่ Tommy Maloteaux CEO ของ Myron Games กล่าว อาจเป็นไปได้ที่จะใช้แพ็คเกจแยกกัน แต่วิธีนี้ไม่สะดวกและอาจนำไปสู่ข้อผิดพลาดได้ง่าย ดังนั้นผู้เล่น Quest 2 จะต้องใช้ชีวิตตามข้อกำหนดขนาดไฟล์ที่เพิ่มขึ้นสำหรับเกมโปรดของพวกเขา อย่างน้อยก็ในตอนนี้
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากชุดเฮดเซตล่าสุดของ Meta มีประสิทธิภาพมากกว่ามาก สตูดิโอหลายแห่งจึงเพิ่มประสิทธิภาพเกม VR สำหรับ Quest 3 ซึ่งก่อให้เกิดปัญหาสำหรับ ผู้ใช้ Quest 2 : ขนาดไฟล์ของเกม VR ที่ได้รับการปรับปรุงบางเกมยังเพิ่มขึ้นสำหรับเวอร์ชัน Quest 2 โดยไม่ต้องให้ประโยชน์ด้านกราฟิกใด ๆ .
จากข้อมูลของ UploadVR นักพัฒนาหลายรายรายงานว่าขนาดไฟล์ที่เพิ่มขึ้นสำหรับเวอร์ชัน Quest 2 สำหรับเกมเช่น Red Matter 2และ Espire 2 พื้นที่ดิสก์ที่ต้องการจะเพิ่มขึ้นจาก 5.6 GB เป็น 9.1 GB และจาก 7 GB เป็น 12 GB ตามลำดับ Cyborn BV ระบุว่าHubris เวอร์ชัน Quest 3 ที่ได้รับการปรับปรุงแล้วจะต้องมีพื้นที่มากกว่า 8 GB (จากเดิม 5.19 GB)
Vertical Robot (Red Matter 1 และ 2) และ Guy Godin ผู้พัฒนา Virtual Desktop ยืนยันว่าขณะนี้ยังไม่มีวิธีที่สมเหตุสมผลในการจัดหา APK แยกต่างหากสำหรับชุดหูฟัง Quest ที่แตกต่างกัน
ที่มา
mixed-news
uploadvr
