PICO DEV JAM 2023 เริ่มแล้ว 25 ก.ย.-10 ธค. 23 แข่งขันการพัฒนา MR/XR เพื่อช่วยพัฒนาแอพบน PICO Store

เมื่อปลายเดือนกันยายน ที่ผ่านมา PICO DEV JAM 2023 ได้เริ่มงานขึ้น เพื่อให้มีการแข่งขันพัฒนา MR/XR เริ่มลงทะเบียนและส่งผลงานได้ ประกาศผล 10 ธ.ค. 23

เมื่อวันที่ 25 กันยายน PICO ซึ่งเป็นแพลตฟอร์ม XR ​​ที่ ByteDance (เจ้าของ TikTok) เป็นเจ้าของ ได้ประกาศช่องทางการลงทะเบียนอย่างเป็นทางการสำหรับ “PICO 2023 First XR Developer Challenge” ได้เริ่มต้นให้ลงทะเบียนได้ 25 ก.ย. – 10 พย. 23 และส่งผลงานได้ตั้งแต่ 2 ตค. -10 พย. 23 การตัดสิน 13 พย.-30 พย. 23 ประกาศผลผู้ชนะ 10 ธค. 23 รายละเอียด และการลงทะเบียนได้ที่ pico-dev-jam-2023.com

นับตั้งแต่ Bytedance เข้าซื้อกิจการด้วยมูลค่า 9 พันล้านหยวน ราว 4.5 หมื่นล้านบาท ในปี 2564 PICO ก็ได้รับอิทธิพลและการเติบโตของยอดขายผลิตภัณฑ์อันเนื่องมาจากทรัพยากร ByteDance จำนวนมาก และระบุในการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ในปี 2565 ว่ายอดขาย PICO 4 จะเกิน 1 ล้านชุด แต่ในปีนั้นก็ไม่ถึง และมาปีนี้ PICO รายงานว่ายอดขายต่ำกว่าคาดและมีการปรับเป้าหมายการขายปี 2566 ด้วย ในเรื่องนี้ เจ้าหน้าที่ของ PICO กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่าพวกเขาคงจะไม่มีคอมเม้นต์เพิ่มเติมต่อข้อมูลการขายและสภาวะตลาดที่เฉพาะเจาะจงในขณะนี้

อุตสาหกรรม VR (Virtual Reality)/AR (Augmented Reality) ในปี 2023 จะกลับมาร้อนแรงอีกครั้งเนื่องจากการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ของ Apple ในเดือนมิถุนายน Apple ได้เปิดตัว VisionPro ซึ่งได้รับการรอคอยอย่างกระตือรือร้นจากอุตสาหกรรม ในราคา 3,499 ดอลลาร์สหรัฐฯ ราว 1.2 แสนบาท จากความเห็นของคนในวงการว่า ผลิตภัณฑ์นี้นำความหวังใหม่มาสู่อุตสาหกรรม AR

เกี่ยวกับแนวโน้มในอนาคตของ AR และ VR นั้น Ma Jiesi ผู้จัดการผลิตภัณฑ์ของ PICO OS กล่าวกับ China Business News ว่าอุตสาหกรรมได้พัฒนาอย่างชัดเจนจาก VR ไปสู่ ​​MR (เทคโนโลยีความเป็นจริงผสม) จากโลกเสมือนจริงที่ดื่มด่ำในอดีตไปสู่โลกที่เสริมพลังให้กับ โลกแห่งความเป็นจริง ความสามารถของ MR กำลังเปลี่ยนแปลง และกลยุทธ์ของ PICO คือ VR+MR เนื่องจากสถานะของ VR และ MR สามารถเปลี่ยนจากมุมมองทางเทคนิคได้อย่างราบรื่น ผ่านเทคโนโลยี VST มุมมองสี อุปกรณ์สามารถมีลักษณะเฉพาะของทั้งสองเทคโนโลยีได้ในเวลาเดียวกัน เวลา – อุปกรณ์ VR ทั้งสองเครื่องก็เป็นอุปกรณ์ MR เช่นกัน

เทคโนโลยีหลักของ MR ประกอบด้วยโซลูชันหลักสองโซลูชัน: VST (Video See Through) และ OST (Optic See Through) แบบแรกมักใช้ในแว่นตา VR โดยจะควบคุมการรวมภาพผ่านเปอร์สเปคทีฟของวิดีโอและอัลกอริธึม วัตถุ แม้กระทั่งการปรับเปลี่ยนวัตถุจริงในระดับที่สูงขึ้นก็ยังเป็นไปได้ อย่างหลังนี้มักใช้ในชุดหูฟัง AR โลกแห่งความจริงและเสมือนจริงถูกรวมเข้าด้วยกันโดยตัวรวมแสงที่สะท้อนภาพที่คอมพิวเตอร์สร้างขึ้นสู่ดวงตาของผู้ใช้

ไม่ว่าจะเป็นในด้าน AR หรือ VR จำเป็นต้องสร้างระบบนิเวศที่สมบูรณ์ จุดมุ่งหมายเดิมของความท้าทายนี้คือการดึงดูดความสนใจและการมีส่วนร่วมของนักพัฒนา อุตสาหกรรม XR ได้เข้าสู่ขั้นตอนใหม่ของการพัฒนาโดยเริ่มเปลี่ยนจาก VR ที่เน้นระบบเสมือนจริงไปสู่ขั้นตอน VR+MR ที่ผสานรวมระบบเสมือนจริงและความเป็นจริง การเปลี่ยนแปลงนี้ไม่เพียงแต่ช่วยให้ผู้ใช้ได้รับมูลค่าผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายมากขึ้นเท่านั้น แต่ยังช่วยให้นักพัฒนามีความสามารถมากขึ้นอีกด้วย ได้ในระดับหนึ่ง พื้นที่สร้างสรรค์ขนาดใหญ่ ในเวลาเดียวกัน ความก้าวหน้าในการแสดงผลแบบออปติคอล พลังประมวลผลของชิป การรับรู้ด้านสิ่งแวดล้อม ปฏิสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับคอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยีอื่น ๆ ยังช่วยเร่งการพัฒนาอุตสาหกรรม XR อีกด้วย

ปัจจุบัน เกา เวนชาน (Guo Wenshan) หัวหน้าฝ่ายธุรกิจเกมของ PICO China กล่าวว่าจำนวนแอพพลิเคชันใน PICO App Store เกิน 530 แอปพลิเคชันแล้ว มากกว่า 100 แอปพลิเคชันใน PICO App Store รวมถึงเกม วิดีโอ กีฬา สำนักงาน ฯลฯ ล้วนมาจากนักพัฒนาในประเทศ โดยในบรรดาเกมดังกล่าว มีเกม 180 เกมที่ทำรายได้มากกว่า 100,000 หยวน ราว 5 แสนบาท แอพพลิเคชันเกือบ 50 รายการมียอดดาวน์โหลดมากกว่า 100,000 ครั้ง และรายได้ต่อปีของนักพัฒนาชั้นนำบางรายบนแพลตฟอร์มใน PICO ก็เกิน 8 ล้านหยวน หรือ 40 ล้านบาท

แต่อย่างไรก็ตาม เกา เวนซาน ยอมรับว่า การพัฒนาระบบต่าง ๆ ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นของระบบนิเวศของนักพัฒนาในประเทศ เขากล่าวว่าระบบนิเวศของนักพัฒนา XR ในปัจจุบันในจีนยังคงอ่อนแอมาก ส่วนใหญ่ผลิตโดยทีมเล็ก ๆ ซึ่งมีแรงกดดันอย่างมากต่อเงินทุนดำเนินงานของพวกเขาเอง อย่างไรก็ตาม นักพัฒนาหลายคนรู้ถึงความน่าจะเป็น ว่าความสำเร็จมีไม่สูงนัก แต่ก็จะยังคงสร้างเนื้อหาที่ดีขึ้นต่อไป

Wu Dezhou อดีตหุ้นส่วนของ Smartisan Technology และปัจจุบันเป็นผู้ก่อตั้งและ CEO ของ Unknown บอกกับ China Business News ว่าไม่มีโอกาสสำหรับสตาร์ทอัพ VR รูปแบบและสถานการณ์การใช้งานของผลิตภัณฑ์ VR ค่อนข้างชัดเจนมากขึ้น เน้นความบันเทิงและเล่นเกมมากขึ้น ปัจจุบันอยู่ในขั้นตอนของการแข่งขันด้านเนื้อหา แม้ว่าราคาจะลดลง แต่จะเน้นเฉพาะกลุ่มผู้บริโภคเกมเท่านั้น มันยากที่จะเพิ่มยอดขาย แต่ในด้าน AR นั้นแตกต่าง การแสวงหาแว่นตา AR คือการบางและเบา เพื่อให้ผู้ใช้สามารถสวมใส่ได้ทุกวันจากนั้นจึงสร้างเนื้อหา เช่น การสร้างโทรศัพท์มือถือในปัจจุบัน การโพสต์วิดีโอสั้น ๆ เป็นต้น จากนั้นจึงจัดวางโครงร่างของคอมพิวเตอร์ แพลตฟอร์ม (Spatial Computing).

ที่มา
baidu